โพลชี้ ผู้หญิงแต่งสวยไปเที่ยวกับเพื่อน มากกว่าเดทกับแฟน

เว็บไซต์เดลี่เมล เผยผลการสำรวจจากเว็บไซต์ Mecca Bingo แหล่งพนันออนไลน์แบบถูกกฎหมายของอังกฤษ ที่ได้สำรวจพฤติกรรมในการเตรียมตัวออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านของคุณผู้หญิง ๆ ระหว่างการออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนสาว และไปเดทแสนโรแมนติกกับหนุ่มคนรู้ใจ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ว่า ทั้งที่คาดการณ์ว่าสาว ๆ น่าจะพิถีพิถันในการเตรียมตัวเองยามออกไปกับหนุ่ม ๆ มากกว่า แต่ผลกลับปรากฏออกมาว่า ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงทุ่มความสำคัญให้การแต่งตัวไปเที่ยวกับเพื่อนสาวมากกว่าเสียอีก

          การสิ่งที่ใช้วัดในแบบสำรวจนั้น ได้แก่ การโกนหรือแว็กซ์ขนหน้าแข้งให้เกลี้ยงเนียน การซื้อชุดสวยตัวใหม่ เวลาในการแต่งตัวก่อนออกจากบ้าน การไปทำผมที่ร้าน ใส่ชุดชั้นในกระชับสัดส่วน ซื้อเครื่องสำอางใหม่ และซื้อเสื้อชั้นในใหม่ โดยในทุกหัวข้อที่กล่าวมานั้น สาว ๆ ที่ได้ทำการสำรวจต่างเลือกที่จะทำมันยามต้องเตรียมตัวออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ มากกว่าตอนออกไปเดทกับแฟนทั้งหมด และเมื่อให้เลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้หญิง 40% ก็ยังเลือกจะไปกับเพื่อนมากกว่าแฟนอยู่ดี

          เบธ เคเนดี้ วัย 26 ปี หนึ่งในสาวที่ได้ทำแบบสำรวจ บอกว่า การได้ออกไปกับเพื่อนสาวน่าสนุกกว่าไปเดทกับแฟนเป็นไหน ๆ ถึงเธอจะแต่งตัวสวยไปแฟนหนุ่มก็ไม่ค่อยใส่ใจจะชมเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับเวลาไปเจอเพื่อน ๆ ต่างคนก็พูดถึงการแต่งตัว และความสวยเป๊ะของอีกฝ่าย แต่ละคนก็เลยพยายามทำตัวเองให้ดูดีที่สุด 

          แต่ถ้าเป็นเรื่องเม้าท์มอยของเหล่าสาว ๆ ล่ะก็ การสนทนากันด้วยหัวข้อเรื่องเกี่ยวกับหนุ่ม ๆ เป็นสิ่งที่พวกเธอโปรดปรานมากที่สุด ตามมาด้วยเรื่องซุบซิบนินทาทั้งหลาย และเรื่องบนเตียงที่คุยกับเพื่อนสาวได้ออกรสออกชาติกว่าคุยกับคนรักตั้งเยอะ 

          แต่ยามอยู่กับแฟนเรื่องที่คุยกันก็จะเป็นอีกแบบ อย่างครอบครัวแต่ละคนตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง แผนการในอนาคต และวางแผนว่าวันหยุดยาวครั้งหน้าจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี แหม คนละทิศคนละทางกับที่คุยกับเพื่อนเลยนะเนี่ย 

          เอ้า สาว ๆ คนไหนอ่านแล้วว่าพบนี่ตรงเป๊ะกับตัวฉันเลย ช่วยเข้ามาคอนเฟิร์มหน่อยจ้า :D

งานแต่งงานธีมสีเขียว-แดง เพื่อความรักที่สดใส

จริงอยู่ที่งานแต่งงานเป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพวกคุณที่กำลังเบ่งบาน แต่ทว่าก็ไม่จำเป็นจะต้องจัดด้วยโทนสีหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับความรักเสมอไป เพราะโทนสีหรือสิ่งของอื่น ๆ ก็สามารถช่วยให้งานแต่งงานของคุณสมบูรณ์แบบได้เช่นกัน อย่างเช่น สีเขียว โทนสีธรรมชาติที่ช่วยให้งานแต่งงานของคุณสดใสขึ้นไม่น้อยเลย แต่ทั้งนี้ถ้าคุณอยากได้บรรยากาศที่แสดงให้เห็นถึงความรักด้วย ก็อาจจะเอาสีแดงเข้ามาใช้ และผสมผสานให้ทั้ง 2 โทนสีนี้กลมกลืนกันไปด้วยสีขาว แค่นี้งานแต่งงานของคุณก็สวยได้แล้ว

         โดยในวันนี้เราก็มีไอเดียงานแต่งงานธีมสีเขียว-แดงมาฝากกัน ตั้งแต่ไอเดียของเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น การ์ดแต่งงาน เซ็นเตอร์พีช เครื่องประดับชุดสำหรับบ่าวสาว ของตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ภายในงานแต่งงาน รวมไปถึงของสำคัญ เช่น ชุดแต่งงาน อาหาร ขนมหวาน ชุดเพื่อนบ่าวสาว เป็นต้น

         ซึ่งเคล็ดลับการตกแต่งงานแต่งงานด้วยธีมสีเขียว-แดงแบบนี้ ก็คือ ควรเน้นไปที่สีใดสีหนึ่งเป็นหลักและใช้อีกหนึ่งสีตกแต่งเพิ่มเติม ในกรณีที่ต้องการจะใช้ 2 สีผสมกัน ก็ไม่ควรจะใช้สิ่งของที่มีทั้ง 2 สีนี้มากจนเกินไป หรือใช้แบบที่มีสีขาวเข้ามาผสมบ้าง เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างสี และทำให้บรรยากาศดูสบายตา เป็นกันเองมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นไอเดียการจัดงานแต่งงานด้วยธีมสีเขียว-แดงที่เรานำมาฝากกันในวันนี้

วิธีลดน้ำหนัก สลายไขมันแบบด่วนจี๋ แค่พันตัวด้วยฟิล์มใส

การลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนเป็นงานหินสำหรับคุณผู้หญิงหลาย ๆ คน เพราะกว่าจะได้มาต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก ไหนจะต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย บ้างก็พึ่งวิธีทางการแพทย์ ฉีดสลายไขมันบ้าง ดูดไขมันบ้าง วิธีพึ่งตัวเองแบบแรกได้ผลจริง แต่กว่าจะเห็นผลก็ต้องทำต่อเนื่องกันยาวนาน ส่วนวิธีพึ่งแพทย์แม้จะง่าย แต่ก็เจ็บตัว และเสียค่าใช้จ่ายน่าดู งั้นลองมาดูวิธีง่าย เร็ว ทันใจ แต่เห็นผลได้จริง ๆ อย่างการพันตัวด้วยฟิล์มใส กันดูไหมล่ะคะ ลดสัดส่วนทั่วร่างกายโดยรวมได้หลายนิ้วเลยล่ะ 

          จากรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา คอลัมนิสต์ด้านความงามตัวเอ้ แคธรีน บลันเดล ได้แชร์ประสบการณ์และความสำเร็จในการลดหุ่นจากการพันตัวด้วยฟิล์มใส ซึ่งหลังทรีทเม้นท์แล้วเธอสามารถลดสัดส่วนทั่วร่างกายได้ 5 นิ้วด้วยกัน ยังไม่นับคนที่เคยรีดอ้วนลดหุ่นด้วยวิธีนี้ได้มากที่สุดดึง 14 นิ้ว !!! อันนับว่าคุ้มค่ามาก ๆ สำหรับราคาค่าบริการครั้งละ 55 เหรียญ (ประมาณ 2,915 บาท) เท่านั้น โดยวิธีรีดอ้วนด้วยการพันตัวด้วยฟิล์มใสนี้ มีให้บริการอยู่มากมายในคลินิกความงามของอังกฤษ 
          เริ่มต้นจากการเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนวันทรีทเม้นท์จริง ด้วยการงดแอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารแปรรูป และอาหารมัน ๆ ทุกชนิด เพื่อเป็นการล้างตับให้สะอาด จะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อถึงเวลาทรีทเม้นท์จริง 

          เมื่อถึงวันทำทรีทเม้นท์จริง ผู้รับบริการจะถูกวัดสัดส่วนทั่วร่างกาย 13  จุด เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง น่อง ฯลฯ จากนั้นจึงนวดตัวด้วยน้ำมันจากดอกจูนิเปอร์ ลาเวนเดอร์ และต้นไซปรัส แล้วก็มาถึงขั้นตอนสำคัญที่ตัวของคุณจะได้รับการพันด้วยฟิล์มใส ซึ่งแคธรีนบอกว่า มันดูคล้ายฟิล์มใสถนอมอาหารมาก แม้เธอราพิสต์ของเธอบอกว่ามันทำมาจากพืชก็ตาม จากนั้นจึงห่มตัวเธอด้วยแผ่นพลาสติก และผ้าอีกหนึ่งชั้น 

          ความร้อนของตัวจะสูงขึ้นเมื่อถูกพันด้วยฟิล์มใส ซึ่งช่วยให้น้ำมันที่นวดลงไปซึมเข้าสู่ผิวได้เป็นอย่างดี และช่วยกระตุ้นสาร Phosphatidylcholine อันเป็นตัวกระตุ้นการสลายตัวของไขมัน ส่วนไขมันที่สลายแล้วจะถูกส่งผ่านไปยังตับ เพื่อการคัดกรอง และกำจัดออกจากร่างกาย โดยในระหว่างและหลังการทำทรีทเม้นท์ ผู้เข้ารับบริการจะต้องดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อช่วยให้ตับขับของเสียรวมทั้งเซลล์ไขมันออกไปได้เป็นอย่างดี
          หลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ฟิล์มก็จะถูกตัดออก เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการทรีทเม้นท์ และแล้วแคธรีนก็ได้รับการวัดสัดส่วนทั่วตัวใหม่อีกครั้ง โดยเธอมีสัดส่วนทั้วทั้งตัวลดลงไปรวมแล้วถึง 5 นิ้วทีเดียว !! 

          และเพื่อให้แน่ใจว่าผลเช่นนี้จะคงอยู่ได้นาน ไม่ใช่ลดเฉพาะช่วงหลังทำทรีทเม้นท์ใหม่ ๆ แคธรีนจึงวัดสัดส่วนเธอทั้งตัวอีกครั้งเมื่อ 24, 36 และ 60 ชั่วโมงให้หลัง และการวัดครั้งสุดท้ายก็ได้พบว่า บางส่วนกลับคืนสู่สภาพเดิม แต่บางส่วนผลการลดหุ่นก็ยังคงเดิม โดยรวมหลังการทรีทเม้นท์มา 60 ชั่วโมง สัดส่วนทั่วทั้งตัวของเธอลดลงจากก่อนทำทรีทเม้นท์ 2 นิ้วด้วยกัน 
          เห็นผลการลองทำทรีทเม้นท์เป็นเช่นนี้ ก็นับว่าการกระชับหุ่นด้วยการพันตัวด้วยฟิล์มใส เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรัดหุ่นให้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่เจ็บตัว และไม่แพง จริง ๆ ค่ะ แต่ผลที่ได้จะมากน้อยขนาดไหน ก็คงแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล แต่ที่สำคัญที่สุดของการจะคงหุ่นสวยไว้ให้ได้นาน คุณก็ต้องหันมาจริงจังกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายให้มากกว่าเดิม อุตส่าห์ได้เริ่มต้นจากหุ่นดีแบบมีตัวช่วยแล้ว ก็น่าจะมีกำลังใจรักษาหุ่นสวย ๆ แบบนี้ต่อไปแล้วเนอะ ไม่มีอะไรจะทำให้หุ่นสวยเฟิร์มได้ยาวนานเท่าการออกกำลังกาย และเลือกกินอาหารดี ๆ แน่นอนจ้า 

5 สถานที่แต่งงานริมน้ำ เติมความหวาน บรรยากาศโรแมนติก

1. หอประชุมกองทัพเรือ

เริ่มต้นกันที่สถานที่แรกกับ หอประชุมกองทัพเรือ  อีกหนึ่งสถานที่ตัวเลือกสำหรับคู่บ่าวสาวที่อยากจะแต่งงานในสถานที่ริมน้ำได้เป็นอย่างดี โดยที่หอประชุมกองทัพเรืออยู่ภายใต้สังกัดสวัสดิการกองทัพเรือ ซึ่งให้บริการที่หลากหลาย ทั้งการจัดการประชุมสัมมนา จัดงานเลี้ยงแต่งงาน รวมไปถึงงานในโอกาสพิเศษต่าง ๆ โดยมีห้องให้เลือกถึง 9 ห้อง ได้แก่ ห้องอรุณอมรินทร์, ห้องเจ้าพระยา, ห้องชมชลธี, ห้องวิชัยประสิทธิ์, ห้องโพธิ์สามต้น, ห้องชมวัง รวมทั้งมีลานทัศนาภิรมย์ ที่มีลักษณะเป็นลานกว้าง พร้อมด้วยเรือสำหรับเช่าจัดงานอีกด้วย นอกจากนี้ ทางหอประชุมยังมีแพ็กเกจอาหารชุดสำหรับเลือกได้ ซึ่งมีทั้งอาหารโต๊ะจีน, อาหารค็อกเทล และอาหารบุฟเฟ่ต์ โดยเลือกได้ดังนี้ navyhall.com

2. วังจักรพงษ์

วังจักรพงษ์ หรือจักรพงษ์วิลล่า อดีตตำหนักของเจ้านายในตระกูลจักรพงษ์ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลือ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ กับครอบครัวพักอยู่ พร้อมทั้งยังเปิดเป็นโรงแรมจักรพงษ์วิลล่า และมีสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานไว้คอยให้บริการด้วยเช่นกัน คู่บ่าวสาวที่อยากสัมผัสความโรแมนติกที่มีความขลังภายในวังเก่าแก่ที่มีอายุยืนยาว พร้อมสวนสวย ๆ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาคงพลาดไม่ได้ การันตีได้จากภาพงานวิวาห์ของเจ้าของวังแห่งนี้ด้วยการแต่งงานของ ฮิวโก้ กับภรรยาสาว ฮาน่า ทัศนาวลัย จักรพงษ์ นั่นเอง

3. ร้านอาหารบ้านเหนือน้ำ

ร้านอาหารบ้านเหนือน้ำถือเป็นเรือนอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปทุมธานี มีลักษณะเป็นบ้านสองชั้น เป็นการประยุกต์จากบ้านเก่าที่มีหลังไม่ใหญ่มากนัก เสาและตัวบ้านอยู่ในแม่น้ำ แต่ได้ขยายรวมทั้งต่อเติมให้เป็นร้านอาหารน่านั่ง ทานอาหาร เน้นการได้วิวและบรรยากาศได้เป็นอย่างดี แถมที่นี่ยังให้บริการสำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดพิธีแต่งงาน หรืองานเลี้ยงแต่งงานแบบภายใน เน้นความเรียบง่ายเป็นกันเอง และมีการเชิญแขกร่วมงานไม่มาก และทางร้านยังมีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายอีกด้วย






4.สวนอาหารครัวแม่คุณริมน้ำ

ครัวแม่คุณริมน้ำ ตั้งอยู่ริมบึงน้ำที่มีพื้นที่กว่า 120 ไร่ มีโซนยื่นออกไปที่เป็นเรือนไม้มุงด้วยหลังคาจากอยู่บนน้ำ ซึ่งดูเป็นธรรมชาติมาก รวมทั้งยังมีระเบียงริมน้ำเล็ก ๆ ยื่นออกไปกลางแม่น้ำ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำคัญคู่หนุ่มสาวที่ต้องการจัดงานแต่งงานในเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสบาย ๆ จากลมธรรมชาติ มองดูเกลียวคลื่นเบา ๆ ยามที่ลมพัดผ่าน ซึ่งทางร้านจะมีเมนูอาหารอร่อยมากมายกว่า 100 ชนิด มีทั้งอาหารซีฟู้ดสด ๆ อาหารไทย อาหารจีน และอาหารอีสาน (ไม่มีเนื้อวัว) นอกจากบรรยากาศที่แสนดีกับอาหารแล้ว ทางร้านอาหารเค้ายังได้มีดนตรีดนตรี folk song และมีห้องคาราโอเกะไว้ให้บริการสำหรับคอเพลงคาราโอเกะอีกด้วย และที่นี่ยังรับจัดงานเลี้ยง งานแต่งงาน ฯลฯ ทั้งในและนอกสถานที่อีกด้วย




5.ร้านอาหารนาราทิพย์ (เชิงสะพานพระราม 7 ฝั่งธนฯ)

  ร้านอาหารนาราทิพย์ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่รับจัดงานเลี้ยงทุกอย่างแบบครบวงจร โดยเฉพาะงานแต่งงาน หรืองานเลี้ยงต่าง ๆ เพราะมีบรรยากาศแบบธรรมชาติสร้างสรรค์ ผ่อนคลายไปกับสายน้ำ ชมขบวนรถไฟสายใต้ขบวนเรือขนส่งสินค้า และเรือโดยสารประจำทาง ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งคล้ายนั่งริมทะเล แถมลิ้มรสอาหารอร่อย ซึ่งที่นี่รองรับแขกได้ประมาณ 350 คน ส่วนเมนูอาหารมีทั้งอาหารไทยและอาหารอีสานให้เลือกกว่า 100 รายการ พร้อมเครื่องดื่มนานาชนิด ในราคาพิเศษสุด ๆ มีลด มีแถม ทุกเดือน 



เรียกได้ว่าแต่ละสถานที่ที่เราได้คัดมานี้ คงจะถูกใจคู่บ่าวสาวไม่น้อยเลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับไว้วางแผนแต่งงานกับสถานที่สุดโรแมนติก ที่จะเพิ่มความหวานให้งานเพิ่มขึ้นอีกด้วย   

12 สายพันธุ์สุนัขที่ราคาแพงที่สุดในโลก

1.Tibetan Mastiff (ธิเบตัน มาสทิฟ) 
ราคาอยู่ที่ $2.200 - $7.000 หรือประมาณ 70,000 – 245,000 บาทไทยเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ใหญ่บิ๊กเบิ้มมากๆ ค่ะ สุนัขสายพันธุ์นี้ทั่วโลกรู้จักในฉายา Big Splash ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้คือซื่อสัตย์ สงบ และมีอัธยาศัยดี มาสทิฟสายพันธุ์ธิเบตที่ตัวใหญ่ที่สุดเมื่อยืนจะสูง 31 นิ้ว และมีน้ำหนักมากสุดสูงถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว บางตัวมีราคาสูงถึง $1,500,000 หรือประมาณ 52,500,000 บาทไทยเลยค่ะ (โอ้!! แพงสุดยอดเลย)

2. French Mastiff (เฟรนช์ มาสทิฟ) ราคาอยู่ที่ $3,000 หรือประมาณ 150,000 บาทไทยเฟรนช์ มาสทิฟเป็นสุนัขที่รูปร่างสูง สง่างาม และแข็งแรง โดยปกติเมื่อสุนัขยืนจะมีความสูง 24 นิ้ว และน้ำหนักมากกว่า 45 กิโลกรัม เป็นที่นิยมของมหาเศรษฐี ซึ่งการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้จะบ่งบอกถึงฐานะ และรสนิยมของผู้เลี้ยงนั่นเองค่ะ

3. Pembroke Welsh Corgi (เพ็มโบรค เวลช์ คอร์กี้)

ราคาอยู่ที่ $1,000 หรือประมาณ 35,000 บาทไทยเพ็มโบรค เวลช์ คอร์กี้ หรือ คอร์กี้ ที่เรารู้จักกันเป็นสุนัขสายพันธุ์ราชวงศ์อังกฤษ สุนัขสายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงมากเพราะเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ราคาของเจ้าคอร์กี้นี้อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และสายเลือดของมันค่ะ

4. Saluki (ซาลูกิ)
ราคาอยู่ที่ $2,500 หรือประมาณ 87,500 บาทไทยซาลูกิ หรือที่เรารู้จักในนาม อาราเบียน กาเชล ฮาวด์ (Arabinan Gazelle Hound) เป็นสุนัขล่าเนื้อพันธุ์หนึ่งของอียิปต์ ลักษณะผอม สูง ขายาว หน้าแหลม หูเป็นขนคล้ายพู่ สง่างาม เป็นที่นิยมมาก ราคาขึ้นอยู่กับลักษณะ และขนของมัน

5. Chow Chow (เชา เชา)
ราคาอยู่ที่ $1,000-$8,500 หรือประมาณ 35,000 - 297,500 บาทไทยเชาเชา เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน มันมีฉายาที่ผู้คนทั่วโลกต่างขนานนามคือ สิงโต นั่นก็เพราะเชาเชาเป็นสุนัขที่มีพละกำลังเยอะ คล่องแคล่วว่องไว ตัวอ้วนกลม ตื่นตัวอยู่เสมอ มีขนหนารอบคอ สง่างาม มีความเป็นมิตร อัธยาศัยดี จุดเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้คือ ลิ้นของมันซึ่งจะมีสีเทาไปถึงดำ ส่วนสีขนที่ได้รับความนิยมคือ สีดำ น้ำตาล แดง

6. Egyptian Pharaoh Hound (อียิปต์ ฟาโรห์ ฮาวด์)ราคาอยู่ที่ $2,500-$6,500 หรือประมาณ 87,500 - 227,500 บาทไทยต้นสายพันธุ์ของสุนัขอียิปต์ ฟาโรห์ ฮาวด์เป็นสุนัขล่าสัตว์ สุนัขพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์เป็นที่สุด เป็นสุนัขสายพันธุ์หายาก ลักษณะผอมบาง ปราดเปรียว กระฉับกระเฉง มีหูเหมือนค้างคาว เหมาะที่จะเลี้ยงในพื้นที่กว้าง โล่ง

7.Old English Bulldog (โอลด์ อิงลิช บูลด็อก) ราคาอยู่ที่ $2,500- $9,000 หรือประมาณ 87,500 – 315,000บาทไทยโอลด์ อิงลิช บูลด็อกมีลักษณะเด่นที่ใบหน้า คือหน้าของสุนัขพันธุ์นี้จะย่นย้อย สีหน้าของเจ้าโอลด์ อิงลิช บูลด็อกจะดูไม่พอใจ และยากที่จะเข้าใจตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่อ่อนหวาน ขี้เล่น และจริงใจ โอลด์ อิงลิช บูลด็อกได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา

8. Canadian Eskimo Dog (แคนนาเดียน เอสกิโม ด็อก) ราคาอยู่ที่ $7,000 หรือประมาณ 245,000 บาทไทยแคนนาเดียน เอสกิโม เป็นสุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่หายากมาก มีจำนวนน้อยกว่า 500 ตัวในทวีปอเมริกาเหนือ แคนนาเดียน เอสกิโม เป็นสุนัขที่เหมาะสำหรับการผจญภัย แต่ไม่เหมาะอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน เพราะมันเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนมาก

9. Lowchen (โลเชน) ราคาอยู่ที่ $5,000-$8,000 หรือประมาณ 150,000 – 280,000 บาทไทยในอดีตสุนัขพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่ชนชั้นสูงในยุโรปเลี้ยงกัน มันมีลักษณะคล้ายสิงโตจึงมีฉายาว่า สิงโตน้อย โลเชนเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวเล็ก กะทัดรัด มีขนยาว และนุ่ม สีขนจะแตกต่างกันออกไป โลเชนเป็นสุนัขที่อารมณ์ดี เป็นมิตร มีชีวิตชีวา และร่าเริง

10. Cavalier King Charles Spaniel (คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล)ราคาอยู่ที่ $1,000-$14,000 หรือประมาณ 35,000 – 490,000 บาทไทย

คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล เป็นพันธุ์สุนัขขนาดเล็กที่มีลักษณะเหมือนตุ๊กตา ขนยาวปานกลาง มีหูยาวและขนหยิก ชื่อของสายพันธุ์ตั้งตาม พระเจ้าชาลส์ที่ 2 แห่งประเทศอังกฤษ สุนัขพันธุ์นี้มีนิสัยเป็นมิตร และเข้ากับเด็กๆ ได้ดี

11. German Shepard (เยอรมันเชฟเฟิร์ด) ราคาอยู่ที่ $1,000 หรือประมาณ 35,000 บาทไทยเยอรมันเชฟเฟิร์ดเป็นอีกหนึ่งในสายพันธุ์ที่นิยมมากที่สุด เยอรมันเชฟเฟิร์ดเป็นที่ต้องการจึงทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีราคาแพง และด้วยลักษณะนิสัยที่เป็นมิตร ร่างกายที่แข็งแรงจึงนำไปฝึกเป็นสุนัขตำรวจ โดยสุนัขสายพันธุ์นี้ถ้าผ่านการฝึกแล้วจะมีราคาสูงถึง $50,000 หรือประมาณ 1,750,000 บาทไทย เลยทีเดียวจ้า

12. Samoyed (ซามอยด์) ราคาอยู่ที่ $4,000-$11,000 หรือประมาณ 140,000 - 385,000 บาทไทย

ซามอยด์ เป็นสุนัขหน้ายิ้ม มีความเป็นมิตร ทำหน้าที่เห่าเตือนเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดี สายพันธุ์นี้นิยมนำไปฝึกเป็นนักแสดง และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูทันสมัย ถ้าเป็นสุนัขสายพันธุ์ดี สายพันธุ์แท้ ราคาจะสูงถึง $11,000 หรือประมาณ 385,000 บาทไทยเลยจ้า